- เป็นเมืองที่เจริญมาก + คนเยอะมาก
- ชีวิตประจำวันเริ่มช้ากว่าในไทย กว่าจะเริ่มเห็นคนเดินบนถนนก็ 8 โมง แต่ก็ดึกกว่าด้วย ห้าง/ร้านค้าปิด 5 ทุ่ม แต่บางร้านก็ถึงเที่ยงคืน
- ทำให้ตอนกลางคืนไฟสว่างมาก-มากที่สุด ดูๆ ไปแล้วยังกับกลางวัน สามารถเดินอ่านหนังสือบนฟุตบาทได้เลย
- ผู้คนดูหน้าตาไม่ได้ยิ้มแย้มแบบเมืองไทย ดูเร่งรีบ แต่ส่วนใหญ่ก็พร้อมจะช่วยถ้ามีปัญหานะ
- ซึ่งเอาเข้าจริงก็ไม่ค่อยได้ถามคนท้องถิ่นหรอก เพราะระบบ accessibility มันดีมากถึงมากที่สุด
- และคนส่วนใหญ่จะพูดภาษาอังกฤษได้ดี และป้ายเกือบทุกอย่างก็จะมีภาษาอังกฤษกำกับไว้เสมอ
- MTR ครอบคลุมแทบจะทุกส่วนของเมือง สายเดินรถค่อนข้างซับซ้อน สถานีก็ซับซ้อน แต่ป้ายบอกทางก็ชัดเจนดี โอกาสหลงในสถานีน้อยมาก
- รถที่วิ่งอยู่ในฮ่องกง ถ้าไม่นับแท็กซี่ (ซึ่งเยอะมากกก) กับรถเมล์ แล้ว ยานยนต์บนถนนมีแต่แบบหรูๆ ทั้งนั้น Mercedez S-Class หรือ BMW 7-Series นี่เกลื่อนถนน Audi, Porsche, Maserati, Ferrari หรือยี่ห้อหรูอื่นๆ ก็หาได้ไม่ยากเลย
- Skywalk ในเขต Central ยาวกว่าแถวสยาม-เซ็นทรัลเวิร์ดประมาณ 10 เท่าได้
- Octopus Card โคตรครอบจักรวาล (ไม่ไร้กิ๊กก๊อกเหมือน Smart Purse) ใช้ได้ตั้งแต่ MTR รถเมล์ เรือข้ามฟาก ร้านสะดวกซื้อ หรือพวก Kiosk
- ไปอยู่สี่วันนี่ใช้จ่ายผ่านบัตร Octopus ไปราวๆ HK$400 แถมเติมเงินได้สะดวก เพราะมีตู้อยู่ทุกสถานี MTR
- คนเดินขึ้นบันไดเลื่อนชิดขวา! เหมือนที่เมืองไทยพยายามรณรงค์กันอยู่ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะสำเร็จชาติหน้า
- เดินชน หรือเหยียบเท้ากันเป็นเรื่องปกติ ไม่ถือสา (เสียเวลาหากิน) ซึ่งส่วนมากผมเป็นฝ่ายไปเดินชนน่ะแหละ ...ถ้าเทียบกับเมืองไทยแล้ว เหยียบเท้ากันที หันมาเขม่นยังกับเพิ่งฆ่าพ่อล่อแม่กันมา เดินชนกระเป๋าที (โดยเฉพาะคุณผู้หญิง) หันมาเขม่นเหมือนกูไปข่มขืนมึงท้องลูกแฝดสามกำลังจะคลอด ฮึ่ม...
- ไม่มีสะพานลอย มีแต่ทางม้าลาย ไม่งั้นก็เดินผ่านสถานี MTR
- ทางม้าลายจะมีป้ายไฟคนเดินข้ามทุกที และคนก็จะหยุดรอสัญญาณไฟ (ถ้าแถวในเมืองก็จะไม่ค่อยมีคนแหกกฎเท่าไหร่ แต่แถบอื่นก็เห็นประปราย)
- รถจอดตรงเส้นหยุดรถตรงแยกได้พอดีเป๊ะอย่างไม่น่าเชื่อ! ไม่เคยเจอคันไหนหยุดรถเลยเส้นเกิน 1 ฟุตเลย และยังไม่เคยเจอรถฝ่าไฟแดง (เข้าใจว่าโทษปรับคงหนักน่าดู)
- สูบบุหรี่ในสถานที่ห้ามสูบโทษร้ายแรงมาก คือประมาณ HK$5000 ทิ้งขยะรู้สึกจะปรับเงิน HK$1500 (หรือสลับกัน?)
- แต่บนถนนทั่วไปจะได้กลิ่นบุหรี่ตลอดเวลา คนที่นั่นสูบกันเยอะมาก
- ผู้หญิงสูบบุหรี่เยอะมาก และเหมือนจะเป็นเรื่องปกติ คือเห็นคู่ที่ผู้ชายไม่สูบแต่ผู้หญิงสูบ (ไม่แน่ใจว่าใช่ แต่ปกติก็น่าจะสูบพร้อมๆ กัน หรือถ้าคนนึงสูบอีกคนได้กลิ่นก็อาจจะเกิดอาการอยากสูบด้วย?)
- ...อย่างที่ @eig บอก ผู้หญิงน่ารักเยอะมากกกกก คือสามารถเจอผู้หญิงที่น่ารักขนาดที่ทำให้มองตามได้ทุกๆ 15 วิฯ หมวย ขาว ตรงสเป็กกันแทบทั้งนั้น
- อาหารถือว่ามาตรฐานสูงกว่าในกรุงเทพฯ จากที่ส่วนใหญ่สุ่มๆ เข้าร้านโดยดูจากเมนูที่วางหน้าร้าน รสชาติก็ใช้ได้หมด
- อาหารราคาต่อมื้อแพงกว่าไทยประมาณ 2-3 เท่า ถ้าเดินเข้าร้านอาหารก็ตกมื้อละ HK$50-100 ถ้าภัตาคารก็ HK$200+ แต่ร้านริมถนนส่วนใหญ่ไม่เกิน $25-30 และบางร้านจะมีเป็นเซ็ตมาให้อยู่แล้ว
- พุดดิ้งมะม่วงอร่อยเหนือสามโลก อยู่บล็อกติดกับ Guest house ที่ไปพักเลย ถ้วยละ HK$24 ถือว่าไม่แพงมาก
- น้ำขวดค่อนข้างแพง ขวดเล็ก 600cc ราคา HK$6 1.5 ลิตร HK$10
- มีเบียร์ Carlsberg ขาย!!! ราคาพอๆ กับ Chang และ Sapporo ราคาเท่า Heineken (ที่ไทยขายกระป๋องละ 150 มั้ง)
- จะว่าไปเบียร์ไม่ได้แพงกว่าน้ำขวดเท่าไหร่เลยนะ กระป๋องละประมาณ HK$7-8
- Supermarket จะไม่ให้ถุงนะ ต้องเอาถุงไปเอง
- ห้างสรรพสินค้าใหญ่เวอร์แทบทุกที่ คือถ้าไม่ได้กว้างเป็นกิโลฯเหมือน CTW เช่น ifc Mall ก็จะสูง 10++ ชั้น แบบ Langham Place หรือ iSquare
- สินค้าในห้างราคาก็ไม่ได้ต่างเมืองไทยเท่าไหร่ ต้องไปตอนที่ลดราคา หรือพวก Outlet Store/Mall
- ซึ่งก็ต้องดูอีกน่ะแหละ เพราะตอนไป Outlet Mall ที่ Tung Chung ก็แพงกว่า Store แถวๆ Mong Kok
- Victoria Peak ไม่ได้ Peak สมชื่อ เพราะมองไปข้างๆ ก็เจอเขาที่สูงกว่า แต่วิวข้างบนดีจริงจัง ถ้าไม่ติดว่าลมแรงจนหนาว คงจะอยู่ดูวิวได้เป็นชม.
- มือถือเป็น iPhone ซะ 80% ที่เหลือก็ Samsung Sony Ericsson HTC ปนๆ กัน แต่พวก feature phone แทบจะไม่เห็นคนใช้เลย
- สนามบินออกแบบได้เข้าถึงง่ายกว่าสุวรรณภูมิมาก เดินออกมาจาก arriving gate ก็ถึง Airport Express เลย ไม่ต้องเดินขึ้นลงอะไรวุ่นวาย
- ห้องน้ำตามห้าง หรือที่สาธารณะสะอาดมาก ที่เดียวที่เจอว่าห้องน้ำไม่ค่อยสะอาดคือท่าเรือข้ามฟาก
- และอื่นๆ ...ถ้านึกออกเดี๋ยวจะมาเพิ่ม
ปล. รูปจะมาแปะเพิ่มให้ทีหลัง ตอนนี้หมดแรงอัพ+แต่ง แล้ว
ปล.2 เจ็บคอตั้งแต่คืนก่อนไป แล้วก็เที่ยวทั้งๆ ที่ยังเจ็บคออยู่อย่างงั้น แล้วก็กินยาปฏิชีวนะกดไว้ ซึ่งก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย เพราะเที่ยวเต็มที่มาก หงุดหงิดตัวเองเหมือนกันที่หาโรคมาใส่ตัว (รู้ตัวว่าไปติดมาจากไหน) กลับมาวันนี้ได้น้ำมูกเพิ่มมาอีกอย่าง